พื้นดินยุบตัวจนเห็นโพรงใต้บ้าน หรือดินใต้บ้านทรุดจนเห็นเสาและท้องคานคอดินโผล่ออกมาจนเกิดเป็นโพรงใต้ถุนบ้าน แต่จะกระทบกับตัวบ้านมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความมั่นคงของเสาเข็ม นอกจากนี้ดินที่ยุบหากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยของงูหรือหนูอีกด้วยพื้นรอบบ้านหรือพื้นห้องที่ต่อเติมทรุดตัวและแยกออกจากตัวบ้าน มีโครงสร้างคานกับผนังแยกออกจากกันจนเห็นได้ชัดผนังบ้านหรือพื้นบ้านเอียงจนเห็นได้ชัด
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือปรึกษาวิศวกรก่อสร้างให้หาสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ไม่ควรใช้ช่างก่อสร้างทั่วไปเพราะถ้าหากปัญหาเกิดจากโครงสร้างบ้าน การแก้ไขปัญหาเฉพาะสิ่งที่เห็นด้วยตา เช่น เกิดมีรอยร้าวที่ผนังแต่แก้ไขด้วยการโป้วรอยร้าวเพื่อปิดรอยก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด ซึ่งการแก้ไขไปถึงตัวโครงสร้างอาจต้องขุดพื้นดินเพื่อซ่อมฐานรากหรือใช้เสาดามเพื่อค้ำยันตัวบ้านด้านที่ทรุดเอียง โดยวิธีการซ่อมบ้านทรุดนั้นมีหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของปัญหาที่พบในกรณีที่ฐานรากเสียหายจนซ่อมไม่ได้หรือพื้นดินทรุดตัวมาก ควรใช้วิธีการดีดบ้านช่วยแก้ปัญหาบ้านทรุดโดยไม่ต้องทุบบ้านทิ้ง วิธีการดีดบ้านทำได้โดยการตัดบ้านออกจากฐานรากเดิมแล้วยกขึ้นจนลอยตัวเพื่อรื้อฐานรากแล้วทำฐานรากใหม่ก่อนที่จะประกบตัวบ้านให้ติดกับฐานราก แต่การดีดบ้านมีราคาสูงมากและทำได้ยาก จึงต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
ขั้นตอนการซ่อมฐานรากบ้านและแก้ไขปัญหาบ้านทรุดเอียง
บ้านทรุดหรือเอียงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านที่มีปัญหาเรื่องฐานรากอ่อนแอ การแก้ไขปัญหาต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคนิคที่เหมาะสมเพื่อให้โครงสร้างกลับมามั่นคงและปลอดภัย ดังนี้คือขั้นตอนสำคัญ:
1. การตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหา
สำรวจความเสียหาย: ตรวจสอบส่วนที่ทรุดหรือเอียง เช่น พื้นบ้าน ผนัง หรือเสา
วิเคราะห์สาเหตุ:
ดินอ่อนหรือทรุดตัว
เสาเข็มสั้นหรือไม่ได้ลงถึงชั้นดินแข็ง
ระบบระบายน้ำไม่ดี ทำให้ดินรอบฐานรากอ่อนตัว
วางแผนแก้ไข: วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญวางแผนซ่อมแซมตามลักษณะของปัญหา
2. การเสริมความแข็งแรงให้ฐานราก
2.1 เสริมเสาเข็มไมโครไพล์ (Micropile)
ใช้เสาเข็มขนาดเล็กที่สามารถเจาะลึกถึงชั้นดินแข็ง เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด
ตอกหรือเจาะเสาเข็มบริเวณที่ต้องการเสริมความมั่นคง
2.2 การยกบ้านด้วยระบบไฮดรอลิก
ใช้แม่แรงไฮดรอลิกยกโครงสร้างบ้านขึ้นให้อยู่ในระดับเดิม
เสริมเสาเข็มหรือฐานรากเพิ่มเติมเพื่อรองรับน้ำหนัก
2.3 ตอกเสาเข็มเจาะ
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ดินอ่อนมาก ใช้เสาเข็มยาวเพื่อรองรับโครงสร้างให้มั่นคง
3. การปรับระดับและเสริมดิน
เติมดินหรือทรายรอบฐานรากเพื่อปรับระดับพื้น
อัดดินหรือทรายให้แน่นเพื่อป้องกันการทรุดตัวซ้ำ
4. ซ่อมแซมโครงสร้างส่วนอื่น ๆ
พื้นบ้าน: ซ่อมพื้นบ้านที่แตกร้าวหรือเอียง
ผนัง: ซ่อมรอยร้าวและเสริมโครงสร้างเพื่อป้องกันการทรุดเพิ่ม
ระบบระบายน้ำ: ปรับปรุงระบบน้ำรอบบ้าน เช่น ท่อระบายน้ำหรือรางน้ำฝน
5. การตรวจสอบและทดสอบ
ตรวจสอบฐานรากและโครงสร้างบ้านหลังการซ่อมแซม
ทดสอบความมั่นคงและระดับของบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
6. การป้องกันปัญหาในอนาคต
หมั่นตรวจสอบบ้านและฐานรากอย่างสม่ำเสมอ
ดูแลระบบระบายน้ำรอบบ้านให้ทำงานปกติ
หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักบนพื้นดินที่อาจส่งผลต่อฐานราก
หมายเหตุ: การซ่อมฐานรากและแก้ไขปัญหาบ้านทรุดเอียงควรทำโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน